ยินดีให้คำปรึกษาและเจรจาต่อรอง
เครื่องขึ้นรูปด้วยความร้อนแบบสองสถานี (In-Mold Cutting) แรงดันบวกและแรงดันลบในแม่พิมพ์รุ่นนี้เป็นอุปกรณ์ประสิทธิภาพสูงและประหยัดพลังงาน ใช้งานหลักในการผลิตถ้วยซอสแบบใช้แล้วทิ้ง จาน ฝา และผลิตภัณฑ์ขนาดเล็กอื่นๆ รุ่นนี้มาพร้อมกับระบบตัดฮาร์ดแวร์ในแม่พิมพ์และระบบซ้อนแบบออนไลน์ ซึ่งสามารถซ้อนได้อัตโนมัติหลังการขึ้นรูป
พื้นที่การขึ้นรูป | แรงยึด | ความเร็วในการวิ่ง | ความหนาของแผ่น | ความสูงในการขึ้นรูป | การสร้างแรงกดดัน | วัสดุ |
แม่พิมพ์สูงสุด ขนาด | แรงยึด | ความเร็วของวงจรแห้ง | แผ่นสูงสุด ความหนา | แม็กซ์ โฟมมิ่ง ความสูง | แม็กซ์แอร์ ความดัน | วัสดุที่เหมาะสม |
820x620มม. | 65T | 48/รอบ | 2 มม. | 80 มม. | 8 บาร์ | พีพี, พีเอส, พีอีที, ซีพีอีที, โอพีเอส, พีแอลเอ |
อุปกรณ์นี้ใช้การออกแบบแบบสองสถานี ซึ่งสามารถขึ้นรูปและตัดได้ในเวลาเดียวกัน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตได้อย่างมาก การตัดแบบอินไดคัท ระบบตัดแบบไดคัทช่วยให้ตัดได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ช่วยให้กระบวนการผลิตมีประสิทธิภาพมากขึ้น
รุ่นนี้มีหน้าที่ขึ้นรูปด้วยแรงดันบวกและแรงดันลบ โดยใช้ความร้อนและแรงดันเพื่อขึ้นรูปแผ่นพลาสติกให้ได้รูปทรงตามต้องการ การขึ้นรูปด้วยแรงดันบวกทำให้พื้นผิวของผลิตภัณฑ์เรียบเนียนสม่ำเสมอ ในขณะที่การขึ้นรูปด้วยแรงดันลบช่วยให้มั่นใจได้ถึงความแม่นยำของส่วนเว้าและส่วนนูนของผลิตภัณฑ์ ทำให้คุณภาพของผลิตภัณฑ์มีเสถียรภาพมากขึ้น
อุปกรณ์นี้ติดตั้งระบบจัดเรียงสินค้าบนพาเลทออนไลน์ ซึ่งสามารถจัดเรียงสินค้าสำเร็จรูปได้โดยอัตโนมัติ ระบบจัดเรียงสินค้าอัตโนมัตินี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดภาระงานได้อย่างมาก
รุ่นนี้เหมาะสำหรับการผลิตผลิตภัณฑ์ขนาดเล็ก เช่น ถ้วยซอสแบบใช้แล้วทิ้ง จาน และฝา เป็นหลัก ขณะเดียวกันก็สามารถปรับให้เข้ากับขนาดและรูปร่างของผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกันได้ สามารถผลิตผลิตภัณฑ์ได้หลากหลายรูปแบบโดยการเปลี่ยนแม่พิมพ์และปรับค่าพารามิเตอร์ต่างๆ
เครื่องขึ้นรูปด้วยความร้อนแบบ 2 สถานีนี้ถูกใช้อย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์อาหารและอุตสาหกรรมบริการ ด้วยข้อได้เปรียบและความยืดหยุ่น จึงมอบโซลูชันการผลิตคุณภาพสูงและประสิทธิภาพสูงให้กับองค์กรต่างๆ
การแนะนำ:การขึ้นรูปด้วยความร้อน (Thermoforming) เป็นกระบวนการผลิตที่มีความยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพ ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อให้มั่นใจถึงการผลิตที่ราบรื่นและคุณภาพระดับสูงสุด การเตรียมอุปกรณ์ การจัดการวัตถุดิบ และการบำรุงรักษาอย่างเหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง